วันพุธที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2553

โค้ดสำหรับสร้างตารางสอบอย่างง่าย (เจ้าค้า)

if (!isset($_POST['regist'])) {
echo "ระบบจัดตารางสอบอย่างง่าย ของนักเรียน 3 คนที่ลงทะเบียนคนละ 3 วิชา";
echo "
";
echo "
";
echo "
";
exit;
}
// แสดงข้อมูลที่รับมาจาก form
echo "
แสดงรายวิชาที่นักเรียนแต่ละคนลงทะเบียนเรียน \n";

$student = split("\n",$_POST['regist']);
foreach($student as $one) {
$subj = split(",",$one);
for($i=0;$i}
// นำข้อมูลแต่ละคน มาแยกเก็บแยกวิชา เช่น a,1,2 ลงตัวแปร $s เพื่อใช้ในการจัดตารางสอบ
foreach($student as $one) {
$subj = split(",",$one);
for($i=1;$i if (!isset($s[$subj[$i]])) $s[$subj[$i]] = $subj[$i] . ",";
$s[$subj[$i]] = $s[$subj[$i]] . $subj[0] . ",";
}
}
// อ่าน $s มาจัดลงตัวแปร $sub เพื่อใช้อ้างวิชาที่ได้ เช่น $sub[0] หมายถึงวิชา "A"
echo "
แสดงชื่อนักเรียนที่ลงทะเบียนในแต่ละวิชา";
$i = 0;
foreach($s as $sepsubj) {
$sepagain = split(",",$sepsubj);
$sub[$i] = $sepagain[0];
$i = $i + 1;
echo $sepsubj . "\n"; // $sepsubj เก็บรหัสนักศึกษาในแต่ละวิชา
}
// จัดกลุ่มตามวัน โดยใช้ while ซ้อน for และตรวจสอบความซ้ำซ้อน
$end = 0;
$i = 0;
while ($end == 0) {
$outday = 0;
for($j=0;$j if (strlen($s[$sub[$j]]) > 2 && $outday == 0) {
$day[$i] = $sub[$j].",";
$base = $s[$sub[$j]];
$s[$sub[$j]] = "";
$outday = 1;
}
}
for($j=1;$j $sbase = $s[$sub[$j]];
$ssubj = split(",",$sbase);
$found = 0;
for($k=1;$k if (stristr($base,$ssubj[$k])) $found = 1;
}
if ($found == 0 && count($ssubj) > 1) {
$s[$sub[$j]] = "";
$day[$i] = $day[$i] . $sub[$j] . ",";
}
}
$i++;
$end = 1;
foreach ($s as $checksubj) {
if (strlen($checksubj) > 2 ) $end = 0;
}
}
echo "
";
// แสดงผลการจัดตารางแล้ว
for($i=0;$i echo "ชั่วโมงที่ ";
echo $i + 1;
echo " สอบวิชา " . $day[$i] . "\n";
}
?>

ผลลัพธ์โค้ด


วันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

คำศัพท์ชนิดการเก็บงาน

VARCHAR (ย่อมาจาก Variable Character Field อ่านว่า วาร์คาร์ หรือ วาร์ชาร์) หมายถึงกลุ่มข้อมูลตัวอักขระที่ไม่สามารถระบุความยาวได้ คำนี้มักใช้เป็นชนิดข้อมูลในระบบจัดการฐานข้อมูล ชนิดข้อมูลประเภท varchar สามารถเก็บข้อมูลตัวอักขระขนาดเท่าใดก็ได้ที่ไม่เกินความยาวที่จำกัดไว้ การจำกัดความยาวก็แตกต่างกันออกไปในแต่ละฐานข้อมูล
TINYINT : สำหรับเก็บข้อมูลชนิดตัวเลขที่มีขนาด 8 บิต ข้อมูลประเภทนี้เราสามารถกำหนดเพิ่มเติมในส่วนของ "แอตทริบิวต์" ได้ว่าจะเลือกเป็น
TEXT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร เช่นเดียวกับ TINYTEXT แต่สามารถเก็บได้มากขึ้น โดยสูงสุดคือ 65,535 ตัวอักษร หรือ 64KB เหมาะสำหรับเก็บข้อมูลพวกเนื้อหาต่างๆ ที่ยาวๆ
DATE : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทวันที่ โดยเก็บได้จาก 1 มกราคม ค.ศ. 1000 ถึง 31 ธันวาคม ค.ศ. 9999 โดยจะแสดงผลในรูปแบบ YYYY-MM-DD
SMALLINT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 16 บิต จึงสามารถเก็บค่าได้ตั้งแต่ -32768 ถึง 32767 (ในกรณีแบบคิดเครื่องหมาย) หรือ 0 ถึง 65535 (ในกรณี UNSIGNED หรือไม่คิดเครื่องหมาย) ซึ่งสามารถเลือก Attribute เป็น UNSIGNED และ UNSIGNED ZEROFILL ได้เช่นเดียวกับ TINYINT
MEDIUMINT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 24 บิต นั่นก็หมายความว่าสามารถเก็บข้อมูลตัวเลขได้ตั้งแต่ -8388608 ไปจนถึง 8388607 (ในกรณีแบบคิดเครื่องหมาย) หรือ 0 ถึง 16777215 (ในกรณีที่เป็น UNSIGNED หรือไม่คิดเครื่องหมาย) ซึ่งสามารถเลือก Attribute เป็น UNSIGNED และ UNSIGNED ZEROFILL ได้เช่นเดียวกับ TINYINT
INT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 32 บิต หรือสามารถเก็บข้อมูลได้ตั้งแต่ -2147483648 ไปจนถึง 2147483647 ครับ (ในกรณีแบบคิดเครื่องหมาย) หรือ 0 ถึง 4294967295 (ในกรณีที่เป็น UNSIGNED หรือไม่คิดเครื่องหมาย) ซึ่งสามารถเลือก Attribute เป็น UNSIGNED และ UNSIGNED ZEROFILL ได้เช่นเดียวกับ TINYINT
BIGINT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 64 บิต สามารถเก็บข้อมูลได้ตั้งแต่ -9223372036854775808 ไปจนถึง 9223372036854775807 เลยทีเดียว (แบบคิดเครื่องหมาย)
FLOAT[(M,D)] : ที่กล่าวถึงไปทั้งหมด ในตระกูล INT นั้นจะเป็นเลขจำนวนเต็ม หากเราบันทึกข้อมูลที่มีเศษทศนิยม มันจะถูกปัดทันที ดังนั้นหากต้องการจะเก็บค่าที่เป็นเลขทศนิยม ต้องเลือกชนิดขอฟิลด์เป็น FLOAT โดยจะเก็บข้อมูลแบบ 32 บิต
DOUBLE[(M,D)] : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขทศนิยม เช่นเดียวกับ FLOAT แต่มีขนาดเป็น 64 บิต สามารถเก็บได้ตั้งแต่ -1.7976931348623157E+308 ถึง -2.2250738585072014E-308, 0 และ 2.2250738585072014E-308 ถึง 1.7976931348623157E+308
DECIMAL[(M,D)] : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขทศนิยม เช่นเดียวกับ FLOAT แต่ใช้กับข้อมูลที่ต้องการความละเอียดและถูกต้องของข้อมูลสูง
DATETIME : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทวันที่ และเวลา โดยจะเก็บได้ตั้งแต่ 1 มกราคม ค.ศ. 1000 เวลา 00:00:00 ไปจนถึง 31 ธันวาคม ค.ศ. 9999 เวลา 23:59:59 โดยรูปแบบการแสดงผล เวลาที่ทำการสืบค้น (query) ออกมา จะเป็น YYYY-MM-DD HH:MM:SS
TIMESTAMP[(M)] : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทวันที่ และเวลาเช่นกัน แต่จะเก็บในรูปแบบของ YYYYMMDDHHMMSS หรือ YYMMDDHHMMSS หรือ YYYYMMDD หรือ YYMMDD แล้วแต่ว่าจะระบุค่า M เป็น 14, 12, 8
TIME : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทเวลา มีค่าได้ตั้งแต่ -838:59:59 ไปจนถึง 838:59:59 โดยจะแสดงผลออกมาในรูปแบบ HH:MM:SS
YEAR[(2/4)] : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทปี ในรูปแบบ YYYY หรือ YY แล้วแต่ว่าจะเลือก 2 หรือ 4 (หากไม่ระบุ จะถือว่าเป็น 4 หลัก) โดยหากเลือกเป็น 4 หลัก จะเก็บค่าได้ตั้งแต่ ค.ศ. 1901 ถึง 2155 แต่หากเป็น 2 หลัก จะเก็บตั้งแต่ ค.ศ. 1970 ถึง 2069
CHAR : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร แบบที่ถูกจำกัดความกว้างเอาไว้คือ 255 ตัวอักษร ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้เหมือนกับ VARCHAR หากทำการสืบค้นโดยเรียงตามลำดับ
TINYBLOB : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี ได้แก่ ไฟล์ข้อมูลต่างๆ, ไฟล์รูปภาพ, ไฟล์มัลติมีเดีย เป็นต้น คือไฟล์อะไรก็ตามที่อัพโหลดผ่านฟอร์มอัพโหลดไฟล์ในภาษา HTML โดย TINYBLOB นั้นจะมีเนื้อที่ให้เก็บข้อมูลได้ 256 ไบต์
TINYTEXT : ในกรณีที่ข้อความยาวๆ หรือต้องการที่จะค้นหาข้อความ โดยอาศัยฟีเจอร์ FULL TEXT SEARCH ของ MySQL เราอาจจะเลือกที่จะไม่เก็บข้อมูลลงในฟิลด์ประเภท VARCHAR ที่มีข้อจำกัดแค่ 256 ตัวอักษร แต่เราจะเก็บลงฟิลด์ประเภท TEXT แทน โดย TINYTEXT นี้ จะสามารถเก็บข้อมูลได้ 256 ตัวอักษร
BLOB : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี เช่นเดียวกับ TINYBLOB แต่สามารถเก็บข้อมูลได้ 64KB
MEDIUMBLOB : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี เช่นเดียวกับ TINYBLOB แต่เก็บข้อมูลได้ 16MB
MEDIUMTEXT : เก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร เช่นเดียวกับ TINYTEXT แต่เก็บข้อมูลได้ 16,777,215 ตัวอักษร
LONGBLOB : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี เช่นเดียวกับ TINYBLOB แต่เก็บข้อมูลได้ 4GB
LONGTEXT : เก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร เช่นเดียวกับ TINYTEXT แต่เก็บข้อมูลได้ 4,294,967,295 ตัวอักษร
SET : สำหรับเก็บข้อมูลที่เป็นกลุ่มของข้อมูลที่ยอมให้เลือกได้ 1 ค่าหรือหลายๆ ค่า ซึ่งสามารถกำหนดได้ถึง 64 ค่า
ENUM(Enumeration) >> หมายถึงเซตของข้อมูลชุดหนึ่งที่มีจำนวนสมาชิกที่กำหนดไว้แน่นอนและทราบค่าทุกตัว ซึ่งมักจะเป็นข้อมูลที่มีลักษณะคงที่

BINARYระบบเลขที่มีสัญลักษณ์เพียงสองตัวคือ 0 (ศูนย์) กับ 1 (หนึ่ง) บางครั้งอาจหมายถึงการที่มีโอกาสเลือกได้เพียง 2 ทาง เช่น ปิดกับเปิด, ไม่ใช่กับใช่, เท็จกับจริง, ซ้ายกับขวา เป็นต้น
BOOL คือข้อมูลที่มีค่าเป็นจริง (True) หรือเท็จ (False)
VARBINARY คือ มีลักษณะการเก็บคล้าย Varcha คือการเก็บข้อมูลตามที่รับมาจริงเท่านั้น มีขนาดสูงสุดมากถึง 8000 ไบต์

วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2552

การติดตั้งโปรแกรม Appserv 2.5.9

ดาวโหลดโปรแกรม Appserv ที่ www.kitt.kvc.ac.th โดยเลือกเวอร์ชั่นที่ต้องการติดตั้ง
ขั้นตอนในการติดตั้ง โปรแกรม appserv โดยดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ Appserv เวอร์ชั่นที่ต้อง แล้วกด Next เพื่อที่ต้องการิดตั้ง แล้วจะปรากฏหน้าจอรายละเอียดต่างๆ แล้วคลิกที่ปุ่ม I Agree แล้วจะเข้าสู่ ปลายทางที่ต้องการจะติดตั้งโปรแกรมไว้ถ้าต้องที่จะเก้บไว้ที่ ไฟล์ที่แสดงอยู่ ให้คลิกที่ปุ่ม Next แต่ถ้าไม่ต้องการเก้บไว้ที่ไฟล์ที่แสดงอยู่ให้กดปุ่ม Browse เพื่อเปลี่ยนปลายทางที่ต้องการเก็บโปรแกรม เมื่อคลิกปุ่ม Next แล้ว จะปรากฏหน้าจอให้เลือก Package components ให้คลิกช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆทั้งหมด แล้วกดปุ่ม Next ต่อไปจะปรากฏหน้าจอให้เติมข้อมุลลงไปในช่งว่าง ช่องแรกให้เติมคำว่า "Localhost" ช่องที่ 2 เติวคำว่า Admin เมื่อเติมข้อมูลเส๊จให้กดปุ่ม Next จะเป้นการตั้งรหัส passwork ให้ตั้งเหมือนกันทั้ง 2 ช่อง เมื่อเติมเส็จแล้วให้กดปุ่ม Install มาถึงขั้นตอนสุดท้ายให่กดปุ่ม Finish เป้นการเส็จสิ้นการติดตั้งโปรแกรม
การติดตั้งโปรแกรม Appserv 2.5.9

ดาวโหลดโปรแกรม Appserv ที่ www.kitt.kvc.ac.th โดยเลือกเวอร์ชั่นที่ต้องการติดตั้ง
ขั้นตอนในการติดตั้ง โปรแกรม appserv โดยดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ Appserv เวอร์ชั่นที่ต้อง แล้วกด Next เพื่อที่ต้องการิดตั้ง แล้วจะปรากฏหน้าจอรายละเอียดต่างๆ แล้วคลิกที่ปุ่ม I Agree แล้วจะเข้าสู่ ปลายทางที่ต้องการจะติดตั้งโปรแกรมไว้ถ้าต้องที่จะเก้บไว้ที่ ไฟล์ที่แสดงอยู่ ให้คลิกที่ปุ่ม Next แต่ถ้าไม่ต้องการเก้บไว้ที่ไฟล์ที่แสดงอยู่ให้กดปุ่ม Browse เพื่อเปลี่ยนปลายทางที่ต้องการเก็บโปรแกรม เมื่อคลิกปุ่ม Next แล้ว จะปรากฏหน้าจอให้เลือก Package components ให้คลิกช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆทั้งหมด แล้วกดปุ่ม Next ต่อไปจะปรากฏหน้าจอให้เติมข้อมุลลงไปในช่งว่าง ช่องแรกให้เติมคำว่า "Localhost" ช่องที่ 2 เติวคำว่า Admin เมื่อเติมข้อมูลเส๊จให้กดปุ่ม Next จะเป้นการตั้งรหัส passwork ให้ตั้งเหมือนกันทั้ง 2 ช่อง เมื่อเติมเส็จแล้วให้กดปุ่ม Install มาถึงขั้นตอนสุดท้ายให่กดปุ่ม Finish เป้นการเส็จสิ้นการติดตั้งโปรแกรม
Vocabulary database

1. database ดาต้า เบส หมายถึง ฐานข้อมูล ชุดของข้อมูลที่รวมเอาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกันเป็นเรื่องราวเดียวกันรวมกันเป็นกลุ่มหรือเป็นชุดข้อมูล เช่น ฐานข้อมูลนิสิต ฐานข้อมูลค้า และ ฐานข้อมูลวิชาเรียน เป็นต้น

2. DBMS (data base management system) ดาต้า เบส แมนนิทเมท. ซิทเท็ม หมายถึง ซอฟต์แวร์ที่สร้างขึ้นเพื่อรวบรวมข้อมูลให้เป็นระบบ เพื่อจะได้นำไปเก็บรักษา เรียกใช้ หรือนำมาปรับปรุงให้ทันสมัยได้ง่าย

3. Database Administrators : DBAs ดาต้าเบส แอสมินิสทราเตอร์ หมายถึง บุคลากรที่ทำหน้าที่บริการและควบคุมการบริหารงานของระบบฐานข้อมูล ทั้งหมดเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะรวบรวมข้อมูลอะไรเข้าในระบบ จัดเก็บโดยวิธีใด เทคนิคการเรียกใช้ข้อมูล กำหนดระบบวิธีการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล การสร้างระบบข้อมูลสำรอง การกู้และประสานงานกับผู้ใช้ว่ามีความต้องการใช้ข้อมูลอย่างไร รวมถึงการวิเคราะห์และการออกแบบระบบ เพื่อให้นักเขียนโปรแกรมนำไปเขียนโปรแกรมที่ใช้ในการบริหารงานระบบฐานข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. Database Development ดาต้าเบส ดีวีล๊อบเมท. หมายถึงนักวิจัยผู้ที่ทำงานด้านวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งในและนอกสถาบันการศึกษา

5. Data Definition Language : DDL ดาต้า ดิฟฟินิชั่น แลงเก็ท เป็นภาษาที่ใช้กำหนดโครงสร้างข้อมูลหรือนิยามข้อมูลของฐานข้อมูล ซึ่งโครงสร้างข้อมูลหรือนิยามข้อมูลสามารถเรียกได้อีกอย่างว่า สกีมา (Schema)

6. Data Interrogation ดาต้า อิทโทโรเกชั่น ความสามารถในการสืบค้นฐานข้อมูลเป็นผลประโยชน์หลักของระบบจัดการฐานข้อมูล ผู้ใช้สามารถใช้ระบบจัดการฐานข้อมูลสำหรับการขอสารสนเทศจากฐานข้อมูล

7. Graphical and Natural Queries กราฟฟิกเชี่ยว แอน เนทรูรอล ไขวเอ็ท ผู้ใช้หลายรายลำบากที่จะแก้ไขวลีของ SQL และคำถามภาษาฐานข้อมูลอื่นๆ ดังนั้นโปรแกรมสำเร็จรูปฐานข้อมูลส่วนใหญ่จึงเสนอวิธีการชี้และคลิกส่วนต่อประสานกราฟิกกับผู้ใช้ (Graphical User Interface : GUI) ซึ่งง่ายต่อการใช้และใช้ซอฟต์แวร์แปลให้เป็นคำสั่ง SQL หรือโปรแกรมสำเร็จรูปอื่นที่อาจใช้ภาษาธรรมชาติ (Natural Language) ที่คล้ายกับการสนทนาภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่นๆ

8. Application Development แอ๊ปพิเคชั่น ดิวีล๊อบเมนท. โปรแกรมสำเร็จรูประบบจัดการฐานข้อมูลมีบทบาทหลักในการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์

9. Data Manipulation Language : DML ดาต้า แมนนิทพลูเลชั่น แลงเก็ท การจัดการข้อมูลหมายถึง การเพิ่มข้อมูลใหม่ลงในฐานข้อมูล, การลบข้อมูลที่มีอยู่ในฐานข้อมูล, การเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลในฐานข้อมูล และการค้นคืนข้อมูลจากฐานข้อมูล

10. Subject Area Database : SADB ซับเจ็ค แอเรียล ดาต้าเบส ฐานข้อมูลซับเจ็กแอเรีย ฐานข้อมูลรายการเปลี่ยนแปลง

11. Analytical Database อะแนลลิทิคอล ดาต้าเบส เก็บข้อมูลและสารสนเทศที่ดึงมาจากฐานข้อมูลเชิงปฏิบัติการและฐานข้อมูลภายนอก ประกอบด้วยข้อมูลสรุปและสารสนเทศที่จำเป็นต่อผู้จัดการองค์กรและผู้ใช้

12. Multidimensional Database มัลติดิเมนสนอล ดาต้าเบส เป็นฐานข้อมูลที่เข้าถึงโดยระบบประมวลผลเชิงวิเคราะห์แบบต่อตรง

13. Data Warehouses ดาต้า แวร์เฮาส์ เก็บข้อมูลปัจจุบันและปีก่อนๆ โดยดึงจากฐานข้อมูลเชิงปฏิบัติการต่างๆ ขององค์กร เป็นแหล่งข้อมูลส่วนกลางที่ได้ถูกคัดเลือก แก้ไข จัดมาตรฐาน และรวบรวมเพื่อใช้สำหรับการวิเคราะห์ธุรกิจ การวิจัยตลาด และสนับสนุนการตัดสินใจ

14. Distributed Databases ดิสทิบูดเทด. ดาต้าเบส ฐานข้อมูลแบบกระจาย หลายๆ องค์กรทำซ้ำ และกระจายสำเนา หรือบางส่วนของฐานข้อมูลไปยังแม่ข่ายเครือข่ายหลายๆ สถานที่

15. End User Databases เอ็น ยูเซอ ดาต้าเบส ฐานข้อมูลผู้ใช้ ประกอบด้วยแฟ้มข้อมูลต่างๆ ที่พัฒนาโดยผู้ใช้ที่สถานีปลายทาง เช่น ผู้ใช้อาจจะมีเอกสารอิเล็กทรอนิกส์หลายๆ สำเนาที่ได้ดาวน์โหลดจาก World Wide Web จากโปรแกรมสำเร็จรูปประมวลผลคำ

16. Field ฟิวส์ เป็นหน่วยข้อมูลที่ประกอบมาจากอักขระต่าง ๆ หลายอักขฟระ เช่น ชื่อ ที่อยู่ ที่ประกอบด้วยอักขระหลาย ๆ ตัว

17. Record เรครอท. จะเป็นการนำฟิลด์หลาย ๆ ฟิลด์มาร่วมกัน เช่น เรคอร์ดลฟูกค้า ก็จะเก็บฟิลด์ข้อมูลของลูกค้าทั้งหมดที่ประกอบด้วยชื่อ ที่อยู่ หรือ หมายเลขโทรศัพท์ เป็นต้น

18. Table เทเบิล จะเป็นการนำเรคอร์ดหลาย ๆ เรคอร์ดมารวมกัน เช่น ตารางลูกค้า จะประกอบด้วยเรอร์ดของลูกค้าที่เป็นลูกค้าแต่ละราย

19. Entity เอ็นทิตี้ เป็นคำที่อ้างอิงถึง บุคคล สถานที่ และสิ่งของต่าง ๆ เช่น สินค้า ใบสั่งซื้อ และลูกค้า เป็นต้น ถ้าเราสนใจในการสร้างระบบฐานข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า

20. InfraStucture Management อินฟรา สตรักเจอ แมนนิทเมนท. หมายถึงการจัดการโครงสร้างพื้นฐานของระบบเครือ การพัฒนาโครงสร้างที่เอื้ออำนวยให้เกิดความเจริญเติบโตต่างๆทั้งในด้านนโยบายและด้านกายภาพ เช่น ในด้านทรัพย์สินทางปัญญา

วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2552

คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับ Rom at work

  1. Memory (เมมโมรี่) ความจำ
  2. Types (ไทป์) ประเภท
  3. common (คามมอน) เข้ามา
  4. Special (สเปเชียว) พิเศษ
  5. Learn (เลินท์) การศึกา
  6. Article (อ๊ากติเคิล) บทความ
  7. Cause (คูช) สาเหตุ
  8. Similar (ซิมิล่า) คล้ายกัน
  9. Diode (ไดโอด) อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ให้กระแสไฟฟ้าผ่านได้ทางเดียว
  10. Value (เวลู) คุณค่า
  11. Lines (ไลน์) เส้น
  12. System (ซิเต๊ม) ระบบ
  13. Columm (คอลัมน์) แถวแนวตรง
  14. Under (อันเดอร์) ภายใต้
  15. Being (บริง) การเป็นอยู่
  16. charge (ชาทร์) บรรจุ
  17. Created (ครีเอ็ดน์) สร้างสรรค์
  18. Need (นิส) จำเป็น
  19. Updated (อับเดด) ทำให้ทันสมัย
  20. Bennefits (บีเน็ตไฟต์) ผลประโยชน์
  21. Each (อิส) แต่ละ
  22. Cretain (คาเท็น) แน่นอน
  23. Music (มิวสิค) เพลง
  24. Control (ครอนโทล) ควบคุม
  25. Burrning (เบริน์นิง) เผาไหม้
  26. Fuse (ฟูช) ละลาย
  27. Grat (เกรช) สำคัญ
  28. Before (บีฟอร์) ก่อนหน้า
  29. Costly (ครอตี้) มีราคาสูง
  30. Grid (กลิว) สายไฟฟ้า
  31. Work (เวิกร์) การทำงาน
  32. Conducted (คอนดากเท็น) ดำเนินการ
  33. Read (ลีสน์) อ่าน
  34. Original (ออริจินอร์) ตัวจริง,แรกเริ่ม
  35. Template (เท็มเป๊น) แม่แบบ
  36. Cost (ครอน์) มุลค่า
  37. Expensive (เอ๊กเพ็นซิส) แพง
  38. Difference (ดิสเฟอร์เรน) ความแตกต่าง
  39. Between (บีทะวีนท์) ระหว่าง
  40. Fragile (เฟริน์กิว) บอบบาง
  41. Process (โปรเสด) กระบวนการ
  42. Wasteful (เวสเทฟูช) เปลือง,สูญเปล่า
  43. Frequency (ฟาสคิวไนท์ป) ความถี่
  44. Trapped (ทามเพส) ดัก
  45. Floating (ฟรอติง) ลอย
  46. Monitors (โมนิตลอน) จอภาพ
  47. Giving (กิวติง) ให้,มอบให้
  48. Rewrite (รีไวลน์) เขียนใหม่
  49. Removed (รีมูมส) ลบออก
  50. Though (ทูช) ซึ่งมอบให้